รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมานั้น กรมฯ ได้กำหนดมาตรการ การจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สำหรับรถในกลุ่มรถตู้ TOYOTA HIACE ส่วนบุคคลที่มีจำนวนที่นั่งเกิน 12 ที่นั่ง หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ใช้รถตู้ส่วนบุคคลนำรถมาใช้รับจ้างรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งจะทำให้ยากต่อการควบคุมตรวจสอบความปลอดภัย โดยกำหนดให้เจ้าของรถต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นในการใช้รถ โดยต้องไม่มีประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปรับจ้างขนส่ง หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้รถกระทำการดังกล่าวตลอดระยะเวลา 3 ปี ก่อนวันที่ยื่นคำขอ ทั้งยังต้องมีสถานที่จอดรถที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรส และต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ให้สามารถจดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลได้ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข

 

ทั้งนี้พบว่าที่ผ่านมาพบว่าประชาชนหลายรายที่ซื้อรถแล้ว แต่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ เช่น ไม่มีที่จอดรถที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ทำให้ไม่สามารถขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ดังนั้น เพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน กรมฯ แนะนำให้ผู้ที่จะซื้อรถและจดทะเบียนตามเงื่อนไขดังกล่าวสามารถขอรับความเห็นชอบในหลักการจดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลจากกรมฯ ได้ โดยยังไม่จำเป็นต้องมีตัวรถหรือเลขตัวถังมาแสดง ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว จึงนำรถพร้อมหนังสือที่ได้รับความเห็นชอบไปดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลตามภายใน 90 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วต้องยื่นขอความเห็นชอบในหลักการใหม่ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามต้องมีหลักฐานในการขอรับความเห็นชอบถูกต้องและครบถ้วนตามเงื่อนไข ประกอบด้วย หนังสือชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการใช้รถรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถตู้ TOYOTA มือสองหรือมือหนึ่งก็ตามจากผู้ผลิต แผนที่แสดงที่ตั้งที่จอดรถ ภาพถ่ายพร้อมแผนผังแสดงพื้นที่จอดรถและทางเข้า-ออก หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ครอบครองสถานที่จอดรถ ประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ (กรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองนิติบุคคลฉบับจริงพร้อมสำเนา และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม) และหนังสือรับรองการใช้รถส่วนบุคคล โดยกรมฯ จะตรวจสอบหลักฐาน พิสูจน์ข้อเท็จจริง พร้อมแจ้งผลการพิจาณาภายใน 30 วัน ทั้งนี้ กรณีตรวจสอบพบในภายหลังว่ามีการยื่นหลักฐานเท็จ หรือนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปใช้ทำการขนส่งเพื่อการค้า หรือธุรกิจส่วนตัว หรือการรับจ้างใดๆ ถือว่าทำผิดเงื่อนไขทางทะเบียนสามารถสั่งเพิกถอนทะเบียนรถได้

 

การพิจารณาว่ารถใดเป็นรถยนต์นั่งที่มีจำนวนที่นั่งเกิน 12 ที่นั่ง หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 ก.ก. ที่ตรงตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ เบื้องต้นจะตรวจสอบจากเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชนิด แบบ ขนาดสัดส่วนและจำนวนที่นั่งจากผู้ผลิต เว้นแต่กรณีที่ผู้ผลิตไม่ได้ระบุจำนวนที่นั่งไว้ในแบบรถ กรมฯ จะคำนวณจำนวนที่นั่งจากพื้นที่โดยสารตามเกณฑ์ที่กำหนด หากเอกสารแสดงแบบรถขัดกับสภาพข้อเท็จจริงของตัวรถ เจ้าของรถหรือผู้ยื่นขอความเห็นชอบจะต้องจัดส่งข้อมูลแบบรถและรายละเอียดของรถเพิ่มเติม โดยผู้ที่ต้องการใช้รถในเขตกรุงเทพฯ ให้ยื่นต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่ผู้ขอมีภูมิลำเนาทะเบียนบ้านอยู่ในท้องที่นั้นๆ สอบถามเพิ่มเติม สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2271-8888 ต่อ 2101-5, 2201-4, 2308-9